สามเณรในค่ายฤดูร้อนที่ชัยภูมิ

ช่วงวันที่ 20 มีนาคม – 12 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา วัดป่าสุคะโต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ จัดให้มีกิจกรรมบรรพชาสามเณรและพรหมจาริณี ซึ่งก็จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีครับ ที่ผ่านมาผมได้รับการเชื้อเชิญจากนายเต่ากะนายปุยทุกครั้ง แต่ก็อย่างที่ทราบกันดี เวลาว่างของ”มนุษย์เงินเดือน”นั้นไม่ค่อยจะมีสักเท่าไร โชคดีที่โคว์ต้าวันหยุดลาพักร้อนผมเหลือเยอะ ภ ก็เลยจะเอามาใช้กันซะบ้าง ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีมากๆ ในรอบปีนี้ครับ

ทุกวันนี้ผมยังคงคิดอยู่เสมอว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะใช้ชีวิตช่วงครึ่งหลังในชนบท เหตุผลหลักก็คือ ค่าครองชีพไม่สูง ไม่วุ่นวาย ผู้คนก็ดูเป็นมิตรดีไม่ซีเรียส ทั้งนั้นและทั้งนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ชนบทที่ผมจะไปอยู่จะต้องอินเทอร์เน็ตให้ใช้ เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผมมานานแล้ว

โลกร้อน เย็นธรรม

ระหว่างเดินธรรมยาตราผมได้มีโอกาสเห็นการประกอบสัมมาอาชีพของผู้คนมากมายหลายอาชีพ ส่วนใหญ่ก็คืออาชีพเกษตรกรชาวไร่ชาวนา อาชีพที่หลายคนทราบดีว่าเป็นอาชีพที่สำคัญต่อชาติ เป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่ไม่รู้เพราะอะไรกระดูกสันหลังของชาติไทยส่วนใหญ่มักจะบ่นว่ากันขรมว่ายากจน รายได้ไม่เพียงพอแก่รายจ่าย ผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ ฯลฯ ที่สุดก็นำมาซึ่งการเป็นหนี้เป็นสินไม่รวยกันสักทีภ จะโทษใครดีล่ะ? ท้องฟ้า ผืนดิน เทวดา รัฐ ระบบการปกครองภ ระบบการบริหาร ระบบการศึกษา หรือว่า เบลอๆๆ

Continue reading

ฝุ่นคือหนึ่งในเครื่องมือวัดใจคณะธรรมยาตรา

บทความโดย : นายนกขมิ้นน้อยธรรมดา

บันทึกนี้เป็นเรื่องราวที่ได้สัมผัสมาจากประสบการณ์ตรงบนเส้นทาง ๙๒ กว่ากิโลเมตร จากเมืองเข้าสู่ป่า จากความสะดวกสบายเข้าหาความลำบาก จากที่อดๆอยากๆ เข้ามาอิ่มเอมกับธรรมชาติสองข้างทาง พบกับมิตรภาพมากมายแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน รวมถึงน้ำเปล่าที่ใสบริสุทธิ์จากชาวบ้านตลอดเส้นทางยังไงก็ลองติดตามอ่านดูครับ อาจจะมีรายละเอียดบางอย่างที่ตกหล่นไปก็ขออภัยครับ

Continue reading

ตอนมาเดินธรรมยาตราครั้งที่ 9 และ 10 นอกจากจะมีเพื่อนเดินที่เป็นคนแล้ว ยังมีเพื่อนเดินที่เป็นสุนัขด้วยครับ

จำได้ว่าสุนัขตัวนี้ได้มาร่วมเดินธรรมยาตราครั้งที่แล้วด้วยครับ
จำได้ว่าสุนัขตัวนี้ได้มาร่วมเดินธรรมยาตราครั้งที่แล้วด้วยครับ

เดินธรรมยาตราครั้งที่ 11 ผมไม่สังเกตเห็นว่ามีสุนัขมาร่วมเดินไปกับเราไปตลอดทางเหมือนครั้งก่อนๆ จะมีบ้างก็เป็นบางครั้งที่มีมาร่วมเดินสักพักแล้วก็แยกทางหายไปภ เอ นึกแล้วก็เกิดคำถามครับ คิดว่าเจ้าตูบตัวนั้นน่าจะได้อนิสงค์อันใดจากการเดินไหมครับ ผมคิดว่าได้นะแต่นึกไม่ออกว่าได้อะไรหรืออย่างไร

เมื่อพูดถึงสุนัขที่พบเห็นระหว่างเส้นทางเดินภ ก็สะท้อนอะไรบางอย่างถึงวิถีชีวิตผู้คนที่นี่ภ ผมเคยสงสัยนะว่าสุนัขที่ผมเห็นส่วนใหญ่ ทำไมไม่ค่อยมีสุนัขสายพันธุ์ไทย มีแต่สุนัขพันธุ์ต่างประเทศหรือไม่ก็สุนัขพันธุ์ทางภ สุนัขบางตัวดูแล้วก็น่าจะราคาโขอยู่ เป็นต้นว่า พันธ์ชิตสึ, พันธุ์โกลเด้นฯ, ขนาดพันธุ์ร็อตไวเลอร์ยังมีเลย

มีข้อสงสัยแบบนี้ คนแรกที่ผมจะถามก็เห็นจะหนีไม่พ้นนายปุกปุย แช่นุ่นเพื่อนผม หมอนี่มักตอบอะไรที่มันยากๆได้เสมอ (แต่เรื่องง่ายๆ กลับไม่รู้เรื่องและชอบทำให้มันดูยาก ฮา)

Continue reading

ธรรมยาตรา โลกร้อน เย็นธรรม

การที่ต้องตื่นขึ้นมาทำวัตรเช้าตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เป็นอะไรที่สุดแสนจะทรมานสำหรับปุตุชนอย่างเราๆ ที่ปกติไม่ค่อยได้ตื่นเช้าบ่อยๆ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าผ่านช่วงของความทรมานอันนี้มาได้ เราก็จะรู้สึกอีกแบบนึงนะ ภรู้สึกถึงความสดชื่นภายใต้อากาศที่หนาวเย็น รู้สึกถึงความตั้งใจของเพื่อนๆทุกคนที่มาร่วมทำวัตรเช้า รู้สึกถึงความสุขจากพิธีกรรมทางศาสนาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และรู้สึกถึงความสุขที่ได้สดับรับฟังการเทศนาสอนธรรมจากหลวงพ่อไพศาล วิสาโล ท่านเจ้าอาวาส วัดป่าสุคะโต จังหวัดชัยภูมิ

Continue reading

กลับบึงกาฬ 4 วันได้รูปที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือมานิดหน่อย เรื่องที่จะเขียนเล่าให้ฟังก็เลยมีไม่มากครับภ งั้นก็ขออนุญาตเล่าต่อจากตอนที่แล้วเลยล๊ะกันนะครับ ในวันรุ่งขึ้นน้าแต๋วและน้าหรั่ง (น้าเขย) ญาติลูกพี่ลูกน้อง ก็อาสาจะพาไปเที่ยว “บึงโขงหลง” แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีแห่งนึงของคนบึงกาฬครับ

บานาน่าโบท บึงโขงหลง

ตอนเด็กๆ ผมจำได้ว่าเหมือนจะเคยไปที่นั่นสองสามครั้งได้ พวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านชอบเหมารถไปเที่ยวกัน เด็กๆอย่างผมก็เลยมีโอกาสได้ติดสอยห้อยตามไปด้วย และก็จำได้ว่าที่นั่นก็ไม่มีอะไรเสียนอกจากแอ่งน้ำขนาดใหญ่(มาก)ในตอนนั้นกิจกรรมทริปก็มีไม่มากเช่นกันครับ พวกผู้ชายไปหาปลาส่วนฝ่ายแม่บ้านผู้หญิงก็จะรอเอาปลามาทำกับข้าว ก็ดูชิวๆไปอีกแบบครับ ยังคิดอยู่เลยว่าวันนี้น้าๆจะพาไปทริปแบบนั้นหรือเปล่าหว่า

Continue reading

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ก็เลยลองค้นหารูปเก่าๆดู เผื่อจะได้นำมาเขียนบล็อคเล่าให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ในเครื่องมีรูปอยู่หลายโฟลเดอร์เลยที่ยังไม่ได้นำไปเขียน ก็นั่งดับเบิ้ลคลิกไปเรื่อยๆ และก็เจอรูปอยู่โฟลเดอร์หนึ่งที่ตั้งใจว่าจะนำมาเขียนในบล็อกนานแล้ว เป็นรูปจากโทรศัพท์มือถือที่ผมถ่ายไว้เมื่อกลางปี 2006 ครับ

ยายมั่น และ ยายหวัน ทั้งสองท่านไม่อยู่แล้วนะครับ

ตอนนั้นกลับไปเยี่ยมยายและหลวงลุงที่บ้านเกิด อำเภอบึงกาฬ (เป็นจังหวัดบึงกาฬ แล้ว) และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอยาย เพราะถัดมาตอนปลายปีท่านก็เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา

Continue reading

“หนุ่ม” เพื่อนคนหนึ่งของผมเป็นผู้ที่ชอบทำบุณทำทานอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆของไทยพี่คนนี้เค้าไม่เคยพลาดครับ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถเปิดเผยรูปภาพของเค้าได้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ภ ฮ่ะๆๆ ที่จริงแล้วเค้าไม่ชอบถ่ายรูปและก็ไม่ชอบให้ใครเอารูปไปโพสต์บนเว็บต่ะหาก ขนาดขอถ่ายรูปดีๆอย่างละมุนละม่อมยังไม่ค่อยจะยอมเลย รูปที่มีอยู่ของหมอนี่สวนใหญ่ก็ได้มาจากการแอบถ่ายแทบทั้งสิ้นครับ ฮะๆๆแปลกคน

วัดเก่า พระนครศรีอยุธยา

ทริปนี้นายหนุ่มเค้าชวนผมไปทำบุญที่อยุธยาภ และจะตระเวณต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่จังหวัดสุพรรณบุรีภ ซึ่งที่นั่นจะมี “นายเปิ้ล ศาสตร์” รุ่นน้องที่เป็นคนในพื้นที่รอต้องรับเราอยู่ ทริปนี้ 2 วัน 1 คืนครับ ขับรถออกจากบ้านประมาณ 9 โมงเช้าวิ่งบนถนนสายเอเชียมุ่งสู่อยุธยา ระหว่างทางก็เห็นประชาชนชาวไทยเล่นสงกรานต์กันไม่ขาดสาย กว่าจะถึงเป้าหมายก็ปาไปเกือบเพล

Continue reading

จะเรียกว่าบ้านอย่างเต็มปากเต็มคำก็คงไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ที่นี่เคยเป็นคอนโดฯที่เช่าเค้าอยู่ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่คอนโดฯของตัวเองในปัจจุบัน จำได้ว่าเวลานั้นเป็นช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ไม่ได้ไปอยู่ในห้างที่มีแอร์เย็นๆ เหมือนอย่างที่เคยทำ ท้องฟ้ายามเย็น ของวันนี้ช่างดูแตกต่างกว่ายามเย็นวันก่อนก่อน แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับของฟ้าช่างดูเข้มข้นแต่แอบแฝงไปด้วยความเหงาเสียเหลือเกิน

ท้องฟ้ายามเย็น

จริงอยู่ว่าแสงสุดท้ายของทุกเย็นอาจจะดูคล้ายกันแต่ก็ไม่เคยเหมือนกันสักวัน ความสวยงามนี้ก็แตกต่างกันไปตามบรรยากาศและฤดูกาล หากได้ลองให้เวลากับตัวเองสักนิด นิ่งหยุดอยู่ตรงนี้สักพัก ผมเชื่อแน่ว่าเราจะได้รับอะไรดีๆกลับมา อย่างน้อยที่สุดก็ความสุขจาก “ความสงบ” และอย่างมากที่สุดก็คือ “สติ” นั่นเองครับ

Continue reading

For 49 Days Exhibition Mind journey beyond death

ใจจริงผมอยากจะตั้งชื่อบทความนี้ว่า “ศิลปะสัจจะธรรมว่าด้วยเรื่องความตายและการเกิดใหม่ภายใน 49 วัน” แต่เกรงว่าจะไม่สื่อความหมายที่ตรงกับชื่องานจึงสมควรที่ใช้ชื่องานเป็นชื่อบทความครับ

เย็นวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2552 ผมมีนัดกับนายนกขมิ้นน้อยธรรมดา นายเต่าจักร และพี่แตงไทภไปดูงานศิลปะสื่อแสดงสดและสื่อร่วมสมัย (Performance Art and Intermedia) ที่ สตูดิโอชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตรงข้ามมาบุญครอง เซ็นเตอร์

ผมกับนายนกขมิ้นฯ มาสายเหมือนอย่างเคย ทำให้นายเต่าและพี่แตงไทยต้องรอนานจนเลยเวลาเข้างานไปพอสมควร ภรู้สึกสำนึกผิดและต้องขออภัยท่านทั้งสอมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ _/|\_
Continue reading