เหมือนเดิมครับ เหมือนทริปที่ผ่านๆมาที่เราต้องรีบจัด ใช้เวลานัดหมายตกลงกันภายในหนึ่งสัปดาห์ว่าเราจะไปเที่ยว ไม่เพียงแค่ความกระชั้นชิดแต่ยังมีข้อบังคับในเรื่องของเวลามาเป็นตัวแปรอีกด้วย ผม บิ่น ปุกปุย โลมา ไมค์ และไก่ สมาชิกชิกเดิมๆจากทริปเขาใหญ่ที่เคยเล่าให้ฟังในบล็อกเรื่อง รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ก็ได้มากันพร้อมหน้าพร้อมตากันเลยทีเดียว

นัดกัน 7 โมง ก็ได้ออกแปดโมงครี่ง ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ใครสุดวิสัยก็ใครสักคนในกลุ่มลืมตื่นนะแหละครับพี่น้อง 555

พวกเรานั่งรถส่วนตัวออกจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 5 สู่ อำเภอ อัมพวา จุดหมายปลายทาง

IMG_4605

ใช้เวลาไม่ถึงชัวโมงดี พวกเราก็มาถึงอัมพวาครับ ก่อนเที่ยวก็ต้องไปซัดก๋วยเตี๋ยวบะหมี่รสเด็ดร้านก๋องเมงจั้นกันก่อนคนละ 2 ชาม อร่อยมากครับ และสถานที่เที่ยวแรกที่พวกเราก็คือตลาดร่มหุบ ไม่ได้มาซื้อของในตลาดหรอกครับ พวกเรามารอถ่ายรูปรถไฟ

Continue reading

สำหรับผม วันนี้วันสุดท้ายของทริปนี้ แน่นอนว่าต้องท่องเที่ยวให้คุ้มซะหน่อย

พี่ตุ้มบอกว่าไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มีศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์พืช ถ้าพวกเราสนใจพี่เค้าก็จะพาไปดูครับภ จริงๆแล้วศูนย์แห่งนี้มีชื่อเรียกนะครับ แต่ผมจำไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยครับ

คนที่ไปด้วย หลายคนมานั่งตรงกระบะกัน ทั้งที่เบาะหลังคนขับก็มีที่นั่งเหลือ ผมก็เป็นคนหนึ่งล่ะที่ชอบนั่งกระบะหลัง เพราะรู้สึกชิวๆกินลม กินบรรยากาศ มันดีจริงๆครับภ อ่อ ผู้ชายที่เห็นด้านล่างคือพี่ตุ้มเม้งครับ พี่ใหญ่ของผมเอง

25102006(029)

Continue reading

เมื่อกลับจากตามช้างป่า พี่ตุ้มก็ชวนพวกเราไปเดินในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหลังที่ทำการฯต่อทันที พี่ตุ้มบอกว่าแม้เส้นทางเดินนี้จะมีระยะทางค่อนข้างสั้น แต่ก็เต็มไปด้วยจุดศึกษาธรรมชาติมากมาย เหมาะที่จะพานักเรียนมาเดินศึกษาครับ

ระหว่างเดินพวกเราก็ไปเจอไข่ 2 ฟองที่ข้างทาง ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นไข่อะไร บ้างก็ว่าไข่เต่า บ้างก็ว่าไข่ตัวเหี้ย ที่สุดก็ปล่อยให้มันอยู่ที่เดิม หวังว่าคงไม่มีสัตว์ตัวอื่นมาคว้าไปกินซะก่อน

25102006(011)

Continue reading

เมื่อวานหลังกลับมาจากตลาดเย็นในตำบล พวกเราก็ยังคงกินข้าวเย็นต่อ(แล้วอย่างนี้จะไม่ได้อ้วนไหวเร้อ) ในวงข้าวต่างคนก็ต่างพูดคุยกันถึงเรื่องการเดินป่าที่ตอนกลางวัน อ่อ ลืมบอกไปครับว่าเจ้าบอยกับลูกศิษย์ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯแล้ว หลังกลับจากเดินป่าเพราะต้องรีบกลับไปสอนในวันจันทร์ครับ

ผม นายปุกปุย พี่ตุ้ม นายปุ้ม นายเต่า นั่งคุยกันจนถึง 4 ทุ่มกว่าๆ ก็เข้านอนเอาแรงกัน พรุ่งนี้ตั้งใจว่าจะไปวัดดวงนั่งดูช้างป่ากันอีกรอบ เผื่อจะเจอ

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZzz

ตอนเช้าหลังรับประทานอาหาร มีเรื่องให้ต้องตื่นเต้นอีกแล้วครับท่าน อาจารย์ชลธรเดินมาบอกพวกเราว่าให้ช่วยกันไปตามหาช้างป่าหน่อย ฟังไม่ผิดครับ ตามหาช้างป่า อาจารย์บอกว่าได้รับแจ้งจากส่วนกลางมาว่าอาจมีช้างป่วยและอาจจะล้มไปแล้วก็เป็นได้ พวกเราก็เลยนั่งรถกระบะของอุทยานฯบึ่งเข้าไปที่จุดที่คาดว่าจะเป็นที่เกิดเหตุบริเวณไรสัปรดของชาวบ้าน ซึ่งอยู่ไกลจากตัวอุทยานฯหลายกิโล

25102006(002)

Continue reading

หลังจากพักผ่อนกันสาแก่ใจ พวกเราก็ออกเดินทางกลับสู่ที่ทำการอุทยานฯ ลุงใจถามพวกเราว่าอยากกลับทางเดิมที่มาหรือว่าอยากจะกลับทางใหม่ พวกเราก็ใจตรงกันครับว่าน่าจะไปทางใหม่ เพราะมาทั้งทีก็น่าจะได้เห็นอะไรใหม่ๆหลายๆอย่าง จริงไหมครับ

ทว่าทางใหม่ที่ลุงใจแกบอกคือการเดินลุยน้ำครับ

แกบอกว่าการเดินกลับตามทางธารน้ำจะใกล้กว่าทางเดิมที่เราเข้ามาอยู่ประมาณเกือบครึ่งแต่อาจจะเดินลำบากหน่อย ระหว่างทางแกบอกว่าเราน่าจะเก็บผักไปกินด้วย ซึ่งผักที่ลุงใจแนะนำให้เก็บไปกินก็คือ ผักกูด นั่งเองครับ

ตั้งแต่ผมหัดเดินป่าผมก็รู้จักผักกูดแล้ว ผักกูดเป็นพีชตระกูลเฟิร์นเอาไปทำอาหารได้หลายอย่างทั้งผัดทั้งแกง อันนี้ผมขอแนะนำเลยครับ

แป๊บเดียวพวกเราก็ได้มาคนละกำใหญ่ๆ มื้อเย็นคงอิ่มแปร้กันเป็นแถวๆ 🙂

24102006(108)

Continue reading

ระหว่างทางเดินป่่า ลุงใจชี้ให้เราดูรอยตีนของสัตว์กินเนื้อชนิดหนึ่ง รอยตีนใหญ่กว่าแมวแต่ไม่ใหญ่มาก พิจารณาอยู่นานก็คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นรอย เสือปลา พอเดินไปอีกหน่อยก็เจอมูลของมัน ทีนี้ก็ฟันธงได้เลยว่าเสือปลาแน่ๆ เสือปลา เป็นสัตว์ตระกูลแมวป่่า ขนาดตัวใหญ่กว่าแมวแต่ไม่ใหญ่เท่าเสือ สถานะตอนนี้ใกล้สูญพันธุ์ครับ พวกมันคงหากินใกล้แหล่งน้ำแถบๆนี้ ปกติเรามักจะไม่ค่อยได้เจอตัวมันง่ายๆครับ

24102006(083)

Continue reading

เมื่อEntryที่แล้ว หลังจากที่พวกเรานั่งรอช้างป่่าอยู่นานกว่า 3- 4 ชั่วโมง รอจนเย็นอีกเช่นเคย ก็ไม่พบว่ามีสิ่งใดปรากฏให้เห็นนอกเสียจากนกกระยางสองสามตัวที่บินอยู่ไปมา ที่สุดก็ต้องออกจากที่แอ่งน้ำกลับไปตั้งหลักที่อุทยานฯอีกครั้งครับ ตอนเย็นของวันนั้นพวกเราก็ปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะออกเดินป่่ากัน และทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนครับ

zzzzzzzzzzzzzzzzzz

รุ่งเช้าวันต่อมา หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ ทุกคนพร้อมแล้วสำหรับเส้นทางเดินป่่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ขึ้นชื่อรือชาเรื่องเส้นทางเดินป่่าที่สมบรูณ์สุดๆและยังสดเอามากๆ นักเดินป่่าจากทั่วทุกสารทิศมุ่งหน้ามาที่นี่เพียงเพราะต้องการเดินป่่าครับ

เส้นทางการเดินป่่าของพวกเรา เป็นเส้นทางเดินระยะที่ไม่ไกลมาก เนื่องจากมีเวลาน้อยภ จึงไม่ได้เดินเส้นทางแบบเต็มๆ(ปกติจะต้องใช้เวลาทั้งวัน) และแม้เส้นทางจะไม่ไกลมากแต่เราก็จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญเส้นทางออกนำไปครับ ทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้ไปกันเองเพราะเกรงว่าจะหลงป่่า ทางเจ้าหน้าที่ยังแซวด้วยนะครับเผลอๆ หลงไปพม่าล่ะก็ยุ่งเลย ฮา

Continue reading

เช้าของวันนี้ หลังทานกาแฟและก่อนอาหารเช้า ผมและเพื่อนๆก็เดินดูนกและสำรวจบริเวณรอบๆอ่างเก็บน้ำอีกครั้ง ที่เห็นในรูปคือจุดที่มีการส่งถ่ายน้ำไปยังคลองชลประทานเข้าสู่ตัวเมืองครับ เห็นอย่างนี้แล้วผมก็นึกถึงภาคอิสาน ถ้าน้ำท่าดีอย่างนี้ชาวบ้านก็คงจะมีอาชีพเกษตรกรรมที่ดีกว่าปัจจุบันครับ

23102006(001)

Continue reading

ทริปนี้ผมได้วันลาพักร้อนมาสองวันบวกกับวันเสาร์อาทิตย์ก็เป็นสี่วันพอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกินครับ พี่ตุ้ม นายปุ้ม และเจ้าเต่าบอกว่าจะไปรออยู่ที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ต้องไปรอผมที่นั่นก็เพราะสองคนนี้เค้าได้รับเชิญเป็นวิทยากรให้กับคณะนักเรียนที่มาทำค่ายสิ่งแวดล้อมที่กุยบุรีก่อนหน้าพวกผมจะไปถึงครับ

การเดินทางไปกุยบุรีครั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณนายบอยที่จัดสรรปันส่วนพื้นที่บนรถกระบะให้นั่ง ทำให้น้องๆหนุ่มๆที่มากับบอยต้องไปนั่งท้ายกระบะโดยปริยาย ก็ต้องขอขอบคุณเด็กๆกลุ่มนี้ด้วยเช่นกันครับ ที่เอื้อเฟื้อที่ให้กับคนชราในเข้าไปนั่งในส่วนทีมีหลังคา แต่พวกเค้ากลับต้องไปนั่งตากแดดตากลมตามฝนที่กระบะแทน ขอบคุณจริงๆครับ

ทีคนในคณะที่ผมต้องเชิญไปด้วยแทบจะทุกครั้งก็คือ นายปุกปุย ครับ หลายEntryในบล็อกที่ผมเขียน มักจะต้องมีนายคนนี้อยู่เป็นประจำ นี่ถ้าบล็อกผมมีแจกรางวัลออสก้า เค้าคงได้เป็นน่าจะเป็นเตงจ๋าที่จะได้รับรางวัลครับ ฮา

และแล้วพวกเรามาถึงอุทยานฯ ใช้เวลาตั้งแต่เก้าโมงเช้าไปจนเกือบถึงบ่ายสามโมง เมื่อไปถึงก็ยังไม่เจอพวกพี่ตุ้ม เพราะเข้าไปเดินป่่ายังไม่กลับ

21102006(001)

Continue reading

IMG_4139

กว่าจะกลับจากหนองผักชีถึงที่พักที่ลำตะคองก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า ระหว่างทางเดินกลับสองข้างทางมืดมากๆ ผิดจากขาไปคนละเรื่อง สักพักก็มีรถบริการส่องสัตว์ของอุทยานฯวิ่งตามหลังพวกเรามาเป็นขบวน

Continue reading