IMG_4185

IMG_3997

ก่อนที่จะตัดสินใจจัดทริปนี้ผมคิดอยู่นานหลายตลบ ว่าจะจัดดีหรือป่าวหนอ เพราะช่วงเวลาหลายเดือนจากนี้คือฤดูกาลของฝนฟ้า ขืนดื้อจัดไปก็คงจะไม่มีเพื่อนๆตอบรับกลับมาเป็นแน่แท้

บ้านเราเมืองเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร เมื่อเข้าเดือนหกฝนก็จะตกกระหน่ำจนถึงเดือนเก้าเดือนสิบ ทริปนี้อยู่ในเดือนเจ็ดพอดิบพอดี ซึ่งไม่ว่าผมจะจัดทริปไปที่แห่งไหนก็คงหนีไม่พ้นสายฝนอยู่ดี

ตัดสินใจล๊ะกัน งั้นจัดทริปลุยฝนไปเลยดีกว่า ให้ลูกทริปของเราได้รู้ซึ้งถึงแก่นแท้แห่ง ป่าฝนเขตร้อน หรือ Tropical rain forest ไปแบบเต็มๆ ให้รู้ว่าเวลาที่พวกเค้าไม่ได้อยู่ในบ้าน ไม่ได้อยู่ในตึก เวลาพวกเค้าต้องมากางเต้นท์ใช้ชีวิตกันในป่าที่มีฝนตกตลอดเวลามันเป็นอย่างไร

ไม่น่าเชื่อครับว่าจะมีน้องๆสนใจมาด้วยตั้ง 4 คน รวมกับผมก็เป็น 5 คน อ่อ ผมคงไม่ลืมที่จะไปบีบคอนายปุกปุยเพื่อนผมให้ร่วมทริปมาด้วย เพราะเค้ามีประสบการณ์เรื่องการเดินป่าศึกษาธรรมชาติเยอะกว่าผม บวกกับความรู้ด้านวิทยากรสิ่งแวดล้อมที่สั่งสมมาคงจะทำให้น้องๆในทริปได้อะไรกลับไปด้วยนอกเหนือจากความสนุกสนานจากการเที่ยวป่า

ที่สุดทริปนี้ก็มีผู้กล้าท้าทายป่าเขตร้อน อุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ ทั้งสิ้นภ 6 ชีวิต คือ ผม ปุกปุย น้องโลมา นายบิ่น นายไมค์ และนายไก่

พวกเราออกเดินทางด้วยรถทัวร์ ปรับอากาศชั้น 2(รถป.1เต็ม) รถทัวร์วิ่งบนถนน 2 ชั่วโมง และจอดเฉยๆ 1 ชั่วโมงกว่าๆ(เป็นธรรมชาติของรถป.2 ไม่เข้าใจว่าเค้าจะจอดนานๆกันทำไม และไม่เคยเข้าใจสักที)ภ กว่าพวกเราจะเดินทางมาถึงปากช่องก็เกือบเพลพอดี กินเวลากว่าสามชั่วโมงกว่าๆ ทำเอาคนบนรถเซ็งไปเหมือนกัน

เราต้องไปต่อรถขึ้นเขาใหญ่ที่ปากช่องครับ แต่ไม่ทันได้ออกเดินจากปากช่องไปเขาใหญ่ พวกเราก็ได้รับการต้อนรับจากสายฝนที่ตกกระหน่ำแบบไม่หยุด อันนี้ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าทริปนี้จะต้องเป็นแบบนี้ ในเมืองฝนตกขนาดนี้ บนเขาใหญ่คงไม่ต้องพูดถึง รับรองได้เลยครับว่า คณะทริปจะต้องได้รับประสบการณ์ใหม่ๆในการท่องเที่ยวป่าหน้าฝนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแน่นอนครับ

พวกเราเดินทางออกจากปากช่องด้วยรถสองแถวประจำทาง จากนั้นก็นั่งรถเจ้าหน้าที่ต่อขึ้นไปที่ตัวอุทยานฯ

IMG_3845 IMG_3846

แต่ก่อนขึ้นไปข้างบน ผมและคณะทริปไม่ลืมที่จะเข้าไปกราบขอพรเจ้าพ่อเขาใหญ่ให้ท่านคุ้มครองให้พวกเราท่องเที่ยวกันอย่างปลอดภัยไร้ปัญหา ยกเว้นเรื่องฝนตก เพราะพวกเรามองว่านั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป หลังจากเดินทางมาถึงที่นี่

IMG_3850 IMG_3853

IMG_3854

ลุงเจ้าหน้าที่คนขับพาพวกเราเดินทางตามเส้นทางขึ้นเขามาเรื่อยๆ ฝนเจ้าก็ตกตลอดทาง ผมมองไปข้างทางที่เป็นไหล่เขา เห็นภูเขาอีกฟากสวยงามมากเหมือนมีก้อนเมฆปกคลุม กลิ่นป่าที่เข้ามาในปอด เป็นกลิ่นที่ผมคุ้นเคยดี กลิ่นนี้แหละใช่เลย กลิ่นแห่งความสดชื่นสบายใจ นี่แหละกลิ่นของป่าฝนเขตร้อน ป่าที่ผมและคณะกำลังมุ่งหน้าไปหา

IMG_3861

IMG_3864

ลุงคนขับรถจอดให้เราลงไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวของเขาใหญ่จุดพวกเค้าเรียกว่า จุดป้องกันไฟป่าภ จุดนี้ผมมาถ่ายรูปหลายครั้งแล้วล่ะครับ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ มันดูสวยกว่าครั้งก่อนๆ ปุยเมฆที่เหมือนจะถูกภูเขาดูดลงมา ทำให้เหมือนกับว่าภูเขาลอยอยู่บนท้องฟ้า

ถึงตอนนี้ผมไม่กลัวกล้องจะเปียกน้ำแล้วล่ะ กดชัตเตอร์เก็บภาพวิวสวยๆ มาหลายเลย น้องๆในคณะทริปก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปไว้เช่นกัน

IMG_3867

IMG_3874

IMG_3880

พวกเราเดินทางถึงที่กางเต้นท์ลำตะคองก็เกือบๆเที่ยง กินข้าวกินปลากันก่อน เพราะหิวมาก ก่อนที่จะเดินหาทีกางเต้นท์

ตั้งแต่ผมเข้าเขตอุทยานฯ ฝนไม่หยุดตกเลย จนกระทั่งจะกางเต้นท์ก็ยังไม่หยุดตก พวกเรากางเต้นท์ท่ามกลางสายฝนอย่างทุลักทุเล

ระหว่างกางเต้นท์พวกเราก็ได้พบกับเจ้าถิ่นจอมดูดเลือด นั่นก็คือ ทาก

น้องไก่โดนกัดเป็นคนแรก เพราะเข้าไปเอาไม้มาทำเสาไม้ไผ่มาทำหลังคา จากนั้นก็ทยอยโดนกันที่ละคน เลือดไหลเป็นลิ่มไปตามๆกัน

มาทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยลำตะคองว่า ตรงที่เรากางเต้นเป็นกอไผ่จึงมีทากชุกชุม ให้ระวังเป็นพิเศษ ระวังกันแน่นอนครับ แต่จะให้ย้ายที่กางเต้นท์ คงไม่แน่นอน เพราะกว่าจะกางกันเสร็จก็กินเวลาพอสมควร

ที่สุดพวกเราก็กางเต้นท์กันเสร็จ ทุกคนเข้าพักผ่อนรอเวลาอาบน้ำ และราตรีกาลกำลังจะมาเยือน

คืนนี้คงมีเรื่องต้องคุยกันเยอะหน่อยนะคณะทริป 🙂

โดย

นายนกกระรางหัวหงอก

Comments

comments

3 thoughts on “รอยยิ้มและลิ่มเลือด Tropical rain forest เขาใหญ่ ตอนที่ 1

  1. แล้วกระผมจะใส่รูปเข้าไปได้ยังไงล่ะทั่น

  2. ใส่รูปในกระทู้คงยังมะได้อ่าพี่ ส่งมาให้ผมที่เมล์เดิมก็ได้ครับ เด๋วผมอัพให้คับ ถ้าพี่จะเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับรูปมาสักสี่ห้าบรรทัดก็จะขอบพระคุณอย่างสูงค้าบท่านเพ่

  3. Pingback: อัมพวา พาเพลิน ตอน 1 | ทำดี เพื่อโลก

Comments are closed.