จะเรียกว่าบ้านอย่างเต็มปากเต็มคำก็คงไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ที่นี่เคยเป็นคอนโดฯที่เช่าเค้าอยู่ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่คอนโดฯของตัวเองในปัจจุบัน จำได้ว่าเวลานั้นเป็นช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ไม่ได้ไปอยู่ในห้างที่มีแอร์เย็นๆ เหมือนอย่างที่เคยทำ ท้องฟ้ายามเย็น ของวันนี้ช่างดูแตกต่างกว่ายามเย็นวันก่อนก่อน แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับของฟ้าช่างดูเข้มข้นแต่แอบแฝงไปด้วยความเหงาเสียเหลือเกิน

ท้องฟ้ายามเย็น

จริงอยู่ว่าแสงสุดท้ายของทุกเย็นอาจจะดูคล้ายกันแต่ก็ไม่เคยเหมือนกันสักวัน ความสวยงามนี้ก็แตกต่างกันไปตามบรรยากาศและฤดูกาล หากได้ลองให้เวลากับตัวเองสักนิด นิ่งหยุดอยู่ตรงนี้สักพัก ผมเชื่อแน่ว่าเราจะได้รับอะไรดีๆกลับมา อย่างน้อยที่สุดก็ความสุขจาก “ความสงบ” และอย่างมากที่สุดก็คือ “สติ” นั่นเองครับ

Continue reading

Ignite Thailand++ ครั้งที่ 2 วันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 18.00 – 21.00 น. (เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 17.00 น.)ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้ว ที่นี่http://www.ignite.in.th ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Igniter – Ignite Thailand++ (ครั้งที่ 2)

ดร. ประมวล เพ็งจันทร์

อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ เริ่มต้นออกเดินเท้าจาก จ.เชียงใหม่ กลับสู่บ้านเกิดที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยระยะเวลา 66 วัน ผ่านระยะทางกว่า 1,000 ก.ม. นำมาซึ่งการถ่ายทอดเรื่องราวตลอดระยะเวลาของการก้าวย่าง สะท้อนคุณค่าของการมีชีวิตอยู่กับชั่วขณะปัจจุบันผ่านหนังสือ “เดินสู่อิสรภาพ” และอีกหลายเรื่องราวที่อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ค้นพบจากการสังเกตชีวิต และได้ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ เช่น “เราจะเดินไปไหน”, “ประมวลความรัก” เป็นต้น

Continue reading

For 49 Days Exhibition Mind journey beyond death

ใจจริงผมอยากจะตั้งชื่อบทความนี้ว่า “ศิลปะสัจจะธรรมว่าด้วยเรื่องความตายและการเกิดใหม่ภายใน 49 วัน” แต่เกรงว่าจะไม่สื่อความหมายที่ตรงกับชื่องานจึงสมควรที่ใช้ชื่องานเป็นชื่อบทความครับ

เย็นวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2552 ผมมีนัดกับนายนกขมิ้นน้อยธรรมดา นายเต่าจักร และพี่แตงไทภไปดูงานศิลปะสื่อแสดงสดและสื่อร่วมสมัย (Performance Art and Intermedia) ที่ สตูดิโอชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตรงข้ามมาบุญครอง เซ็นเตอร์

ผมกับนายนกขมิ้นฯ มาสายเหมือนอย่างเคย ทำให้นายเต่าและพี่แตงไทยต้องรอนานจนเลยเวลาเข้างานไปพอสมควร ภรู้สึกสำนึกผิดและต้องขออภัยท่านทั้งสอมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ _/|\_
Continue reading

ในการเดินของมนุษย์เราบางครั้ง เราเดินอย่างเร่งรีบ เดินอย่างบ้าเลือด เดินอย่างเพลิดเพลิน หรือเดินอย่างทุกข์ระทม (ทั้งร่างกายและจิตใจ) หรือแม้กระทั้งเดินแบบใจลอยคิดฟุ้งซ่านไปในหลายๆ เรื่องในเวลาเดียวกันจนแยกไม่ออกว่ามีกี่เรื่องที่คิดกันแน่

หลายครั้งที่เราเดินอย่างมีและไม่มีจุดมุ่งหมายปลายทาง แต่ทุกย่างก้าวของเราก็รีบเร่งก้าว โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่นใดนอกจากระยะทางที่ไกลหรือสถานที่เราต้องการไปถึงจุดหมายปลายทาง แม้แต่บางครั้งลืมความเป็นตัวเป็นตนของตนเอง ลืมสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบข้าง หรือแม้แต่ไม่ได้มองอะไรเลย จนข้อเท้าแพลงหรือประสบอุบัติเหตุ อาจจะเป็นเพราะเราเดินได้แต่ไม่มี “สติ”

ผมได้รู้จักการเดินแบบไร้สติมานานมากแล้ว จนวันหนึ่งได้เข้ามาสู่การเดินแบบมีสติ โดยเข้ามาร่วมกับ “คณะเดินธรรมยาตรา ครั้งที่ 10 ณ จังหวัดชัยภูมิ” แม้ว่าจะเป็นครั้งที่ 2 ที่ผมเข้ามาร่วมเดิน แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงภาระอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่มารองรับกิจกรรมต่างๆ ของชาวโลก ทั้งที่ทำร้ายและช่วยกันรักษาโลกใบนี้

Continue reading

IMG_5919

สำหรับ Entry นี้ ผมคงจะไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงอันใดมากมาย เพราะเชื่อว่าพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ คงอยากจะดูรูปกันมากกว่า ไว้วันหน้าผมจะมาเล่าความรู้สึกดีๆ ให้ฟังทีหลังนะครับ

บทความโดย

เอก – นายนกกระรางหัวหงอก

>> ดูรูป คลิกที่นี่เลยครับ <<

ขอเชิญชวนเพื่อนๆ เข้าร่วมโครงการ เดินธรรมยาตราลุ่มน้ำลำปะทาว ครั้งที่ 10 ที่ ชัยภูมิ ครับ

01112008070

ก่อนอื่นคงต้องเกริ่นกันก่อนนะครับว่า โครงการธรรมยาตรา เป็นโครงการ ฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ ลุ่มน้ำลำปะทาว ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี่ ๒๕๔๓ ซึ่งมุ่งเน้นการประสานความร่วมมือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมกระตุ้นให้เกิดความ รัก การพัฒนาจิตใจภายในที่ดีต่อคุณค่าของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนเทือกเขาภูแลนคาพื้นที่เขตลุ่มน้ำลำปะทาวของจังหวัดชัยภูมิโดยมีกิจกรรมหลักคือ การรณรงค์ด้วยการเดินเท้าอย่างสงบฝึกฝนจิตใจด้วยเมตตา ไปตามหมู่บ้านต่างๆ ๘ วัน ๗ คืน ร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาทุกข์สุขของชุมชน ประกอบศาสนกิจ ฟังธรรมและเทศนาให้เห็นคุณค่าของแม่น้ำ แผ่นดินและธรรมชาติ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในลุ่มน้ำลำปะทาวโครงการนี้ จึงได้มุ่งเน้นให้ประชาชนได้ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อคืนความบริสุทธิ์สดใสให้กลับสู่ชีวิต และลุ่มน้ำลำปะทาวอย่างยั่งยืนสืบไป อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

Continue reading

ตอนแรกผมคาดหวังไว้ว่าทริปนี้จะได้สัมผัสกับความหนาวเย็น แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง เพราะลมหนาวแห่งฤดูกาลเจ้าได้พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไปอย่างไม่ไยดีภ ทิ้งไว้แต่เพียงความอบอ้าวและฝนฟ้าบางๆ พอได้ดับคลายร้อนเท่านั้นเอง

นครนายก จังหวัดที่ผมเคยตั้งใจไว้หลายครั้งแล้วล่ะครับว่าจะมาเยี่ยมเยือนพักผ่อน ก่อนหน้านั้นผมเคยเดินทางผ่านที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่คิดที่จะแวะเที่ยวเป็นจริงเป็นจังเลยสักกะครั้ง ทริปนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสอันดีครับ

IMG_5780

ผมวาดฝันไว้ว่าที่ๆเราจะไปพักกางเต้นท์จะเป็นสถานที่เงียบๆใต้เขื่อนขุนด่านปราการชล มีลำธารเย็นๆไหลผ่าน นั่งชิวด์ๆดูดาวกลางคืน และตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ในยามเช้า นึกแล้วมีความสุขจังวุ้ย

Continue reading

วันที่ 10 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปชมการบินผาดแผลงของฝูงบิน F-16 ที่ดอนเมืองครับ จริงๆก็ไม่เชิงว่าเป็นดอนเมืองซะทีเดียวหรอกครับ ผมไปยืนดูบนชั้นจอดรถของไอทีสแควร์หรือหลักสี่พลาซ่าเดิม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะผมหมดสิทธิ์ที่จะไปดูไกล้ๆที่ดอนเมืองครับ เนื่องจากรถติดไม่ขยับเลย

และนี่เป็นครั้งที่สองที่ฝูงบินผาดแผลงจากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาที่มีนามว่า “Thunderbirds” ได้มีโอกาสมาแสดงให้คนไทยได้ชมกันครับ พวกเค้าเริ่มต้นด้วยการบินไปรอบๆบริเวณของฝูงบินคล้ายเป็นการเคารพท่านผู้ชม

IMG_5282

จากนั้นก็เริ่มวาดลวดลายเด็ดของนักบินระดับโลก ด้วยการบินในแนวดิ่งแบบตั้งตรงระดับ 90 องศา จะหายไปจากฟ้า แค่ช็อตแรกก็หัวใจจะวายแทนนักบินแล้วล่ะครับ

Continue reading

งัวเงียตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า เมื่อคืนเจ้าไก่คงเข็ดไปอีกนานที่ได้นอนไกล้นายปุกปุย และจากนี้ไปคงจะไม่ได้มานอนที่เดียวกันอีกต่อไป ด้วยเสียงกรนระดับซูเปอร์โชนิกบูมทั้งคืน แต่ละจังหวะไม่ซ้ำกัน เดชะบุญผมรู้ตัวทันอีกเช่นเคย จึงชิงหลับไปซะก่อน จะมีก็แต่เจ้าไก่ที่ต้องทนทุรนทุรายจนถึงเช้า 55

IMG_4941

ผมไม่ได้ใส่บาตรมานานล๊ะ วันนี้จึงรู้สึกดีมากๆครับ ได้อุทิศส่วนกุศลถึงเจ้ากรรมนายเวรและญาติผู้ล่วงลับ

IMG_4955

รองท้องด้วยขนมปังและปลาท่องโก๋ที่เจ้าของโฮมสเตย์เค้าเตรียมไว้ให้ ตบด้วยกาแฟร้อนๆ เท่านี้ก็ตาสว่างแล้วล่ะครับ เดินโต่เตร่อยู่ได้สักพักคณะทริปก็กลับไปอาบน้ำอาบท่าเก็บข้าวของสัมภาระเดินทางไปยังตลาดอัมพวาอีกครั้ง

Continue reading