สังคมไทยไม่ควรให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

*******************************************

1 กันยายน 2533 สืบ นาคะเสถียร ข้าราชการกรมป่าไม้ และผู้นำที่สำคัญอีกคนหนึ่งของกระบวนการอนุรักษ์ธรรมชาติในเมืองไทย ได้กระทำอัตวินิบาตกรรมตนเองด้วยปืนพกประจำตัว

การเสียชีวิตของท่านในครั้งนั้น ก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวของสังคมไทยต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างใหญ่หลวง เป็นกระแสอนุรักษ์ที่ยิ่งใหญ่ มาก หลังจากยุคที่ นพ.บุญส่ง เลขะกุล และพลพรรคนิยมไพรสมาคม มีความกล้าหาญเข้าเสนอ กฎหมายเพื่อการ อนุรักษ์ธรรมชาติ ต่อรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐบาลเผด็จการในขณะนั้น จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ครบรอบ 12 ปี แล้ว ผมจะไม่ขอเล่าประวัติของคุณสืบอีก เพราะในช่วงเวลานี้ก็มีหลายองค์กร จัดงานรำลึกสืบกันอยู่ทั้งเดือนกันยายนนี้อยู่แล้ว แต่ผมมีคำถามถึงสังคมโดยรวม นั่นก็คือตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงมา เราจะต้องรอให้มีคนตายเพิ่มอีกหรือ? จึงจะมาตื่นตัวเรื่องอนุรักษ์กัน สังคมไทยจะโหดร้ายปานนั้นเชียวหรือ? คุณสืบนั้นเห็นว่า ลำพังตัวคนเดียวนั้นไม่สามารถจะปกป้องคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะ ป่าไม้สัตว์ป่า ได้ จึงได้อุทิศชีวิตตัวเอง เป็นการจุดประทีปแห่งการอนุรักษ์ขึ้นมา แต่ปัจจุบันปัจจัยคุกคาม ทรัพสมบัติล้ำค่าของชาติที่หาไม่ได้อีกแล้วในที่อื่นๆของโลก ยังดำเนินต่อไป การประเคนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆที่รุกรานต่อระบบนิเวศธรรมชาติยังดำเนินต่อไป ปัญหานายทุน อิทธิพล เข้าไปตัดไม้ทำลายป่ายังตกเป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยๆ แถมยังเขียนไว้บนไม้ที่ตัดไว้ด้วยเป็นทำนองว่า”จ้างก็ทำอะไรกูไม่ได้” การลักลอบนำสัตว์ป่าส่งออกตามชายแดน ยังสะดวกสะบายเหมือนขับรถชมวิว ถ้าเหตุการณ์นี้ยังดำเนินอยู่ ก็ยังคงมีคนตายอยู่เรื่อยๆ ผมเชื่อว่าวิญญาณสืบบนสวรรค์ คงไม่ต้องการให้มีสืบ2 สืบ3 ต่อไปเรื่อยๆแน่นอน

ผมเชื่อว่าวิญญาณสืบบนสวรรค์ คงไม่ต้องการให้มีสืบ2 สืบ3 ต่อไปเรื่อยๆแน่นอน

บทความโดย
Day Walker

ที่มาของรูป http://www.seub.or.th/

Comments

comments

Comments are closed.