ต้นปี 54 ราว ๆเดือนมีนาคมผมได้มีโอกาสขึ้นไปเยือนภูทับเบิกเป็นครั้งแรกครับ อันที่จริงแล้วการไปเยือนภูทับเบิกในครั้งนั้นเป็นการไปปฏิบัติงาน ดังนั้นจึงไม่ได้คาดหวังฟิลลิ่งที่จะได้รับจากการท่องเที่ยวเสียเท่าไร แต่ก็ยอมรับว่าได้แอบหยิบฉวยระหว่างการทำงานมาได้ค่อนข้างเยอะพอสมควร ซึ่งก็มากพอที่จะนำมาเล่าให้เพื่อน ๆฟังกันเพลิน ๆได้

ไปเยือนภูทับเบิกครั้งแรก
เรียกที่นี่ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกระหล่ำปลียังได้เลยนะนี่

ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ระยะทางห่างจากอำเภอหล่มเก่าราว 40 กิโลเมตร ซึ่งก็ควบรวมถึงห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตรด้วยเช่นเดียวกันครับ ผมและทีมงานเริ่มต้นเดินทางออกจากกรุงเทพฯกันตั้งแต่บ่าย 3 โมงกว่าจะถึงที่พักบนภูทับเบิกก็มืดค่ำแล้ว ระหว่างเส้นทางพยายามมองออกไปนอกรถแต่ก็ไม่เห็นวิวสวย ๆเสียเท่าไร ทราบแต่เพียงว่าเส้นทางชันที่ขึ้นภูทับเบิกในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์นั้นมีความยากอยู่พอสมควร รู้สึกได้จากปฏิกิริยาของพี่โชเฟอร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

Continue reading

เหยื่อสำหรับตกเหล็กน้ำพี้
เหยื่อสำหรับตกเหล็กน้ำพี้

สมัยหนึ่งที่บรรพบุรุษของเรายังใช้ดาบเป็นอาวุธในการต่อสู้กับศัตรู ผู้สร้างอาวุธจำเป็นจะต้องแสวงหาแหล่งแร่เหล็กสำหรับเป็นต้นทุนในการผลิตที่สามารถรองรับกับความต้องการจำนวนมหาศาลได้ บ่อเหล็กน้ำพี้จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ได้มีการขุดหาแร่เหล็ก ทั้งได้มีการตั้งเตาถลุงและโรงตีมากมายในพื้นที่ดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากหลักฐานการค้นพบเตาถลุงเหล็กโบราณที่ตั้งอยู่ในรัศมีหลายกิโลเมตรจาก บ่อเหล็กน้ำพี้

Continue reading

เมื่อได้เห็นโฆษณาประชาสัมพันธ์ถึงนิทรรศน์รัตนโกสินทร์แห่งนี้จากเฟสบุ๊คก็รู้สึกว่าน่าสนใจและก็ตัดสินใจที่จะเดินทางไปในวันหยุดสุดของสัปดาห์นั้นทันทีครับ จำว่าเราใช้เวลาศึกษาสถานที่กันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งก็เหมือนหลาย ๆการเดินทางที่ผ่านมานั่นแหละครับ คือแค่พอเห็นว่าสถานที่มีความน่าสนใจเราก็ใช้เวลาติดสินใจง่าย ๆไว ๆจะดีหรือไม่ดีอย่างไรวัดดวงเอาดาบหน้าครับ

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ในวันหยุดคนจะหนาตาหน่อยนะครับ แต่ก็ดีครับได้เดินชมกันเป็นหมู่คณะ ไม่เหงา

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ที่พวกเราได้ไปสัมผัสนั้นเป็นอีกมิติหนึ่งของการนำเสนอความรู้ความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีการนำเทคโนโลยีมัลติมีเดียเข้ามาใช้ แม้หลายจุดจะยังไม่ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) กับผู้ชมเท่าใดนัก แต่ก็ถือว่าการนำเสนอข้อมูลผ่านระบบมัลติวิชั่นนั้นเค้าทำได้ดีเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไป นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร ในกรุงเทพมหานคร เปิดทำการตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. หยุดวันเดียวคือวันจันทร์ หากใครมีรถก็สามารถที่จอดรถแถว ๆนั้นได้ เช่น บริเวณวัดราชนัดดาฯ หรือที่จอดของเอกชน ซึ่งก็ต้องเสียตังค์จอด (อันนี้อย่างไรโทรไปถามเจ้าหน้าที่ของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ดูนะครับ) หากท่านใดสนใจหรืออยากศึกษารายละเอียดก่อนก็เข้าไปดูได้ในนี้นะครับ http://www.nitasrattanakosin.com/contactus.php?lang=th

ซึ่งในการชมนิทรรศน์รัตนโกสินทร์เราจะต้องผ่านห้องแสดงต่าง ๆดังต่อไปนี้ครับ

Continue reading

ยามหัวค่ำของค่ำคืนวันหนึ่งสักสามปีเห็นจะได้ หลังเสร็จจากกิจธุระ Survey สถานที่จัดงานสัมมนาประจำปีบริษัทเป็นที่เรียบร้อย คณะทีมงานสำรวจก็ได้มีโอกาสแวะเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน ที่นี่มีชื่อว่า “เพลินวาน”

 

แวะเพลินที่ เพลินวาน
แวะเพลินที่ เพลินวาน

เพลินวาน ได้ที่ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมเอาความเก่าจากครั้งอดีตมาปั้นและปรุงแต่งใหม่ให้ได้อารมณ์แบบเดิม ๆ หรือจะเรียกว่าเป็น “Retro Village”เลยก็คงจะพอได้ สำหรับนักท่องเที่ยวผู้แสวงของบรรยากาศแบบ Retro นั้น ที่นี่มีทั้งสิ่งของเครื่องใช้, อาหารการกิน หรือตัวรูปลักษณ์ของตัวอาคารที่ถูกออกแบบมาให้ดูย้อนยุคซึ่งก็ถือว่าทำได้ดี แม้บางจุดอาจจะยังดูไม่ค่อยเนียนเท่าใดนัก โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวบางคนที่เคยผ่านยุคสมัยนั้นมาก่อนก็ตาม

Continue reading

เคยไปน่านครั้งแรกตอนปี 54 ช่วงนั้นไปทำงานด้านภัยพิบัติครับ ตอนนั้นน้ำท่วมที่น่านอย่างหนัก ไม่นานถัดจากนั้นน้ำก้อนดังกล่าวกไหลมารวมกันกับน้ำจากแหล่งอื่นที่แม่น้ำเจ้าพระยา และบ่าไหลต่อลงมาท่วมภาคกลางซึ่งรวมถึงกรุงเทพฯ จนใคร ๆ ก็เรียกเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนั้นว่า “มหาอุทกภัย”

น่าน

ครั้งนี้จึงเป็นการมาเยือนจังหวัดน่านเป็นครั้งที่สอง เผอิญว่ารุ่นสมัยน้องมหาวิทยาลัยสละโสด เราเลยถือโอกาสมาเที่ยวด้วยในตัว แต่ก็ไม่ได้ไปหลายที่นักเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนอากาศอบอ้าวใช้ได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามแต่เราและเพื่อน ๆก็ยังคงพอมีเวลาที่จะเตร็ดเตร่ ไปยังสถานที่สำคัญ ๆหลายแห่งของเมืองน่านพอหอมปากหอมคอ

Continue reading

กลับจากเดินธรรมยาตราถึงกรุงเทพฯในตอนเช้า มาทำงานตอนกลางวัน ตกเย็นก็ไปเที่ยวพักผ่อนต่อที่ เชียงคาน

มาเชียงคานใครๆ ก็อยากจะเห็นบ้านไม้เดิมๆ วัฒนธรรมเดิมๆ ของที่นี่ ซึ่งผมก็ได้เห็นทั้งหมดครับ บางคนบอกว่าที่นี่มันเปลี่ยนไปแล้ว ใช่ครับ มันเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเหมือนกันกับหลายๆ สิ่งบนโลกใบนี้ที่เปลี่ยนไปนั่นแหละ แต่คนที่นี่เค้าก็เรียนรู้และเข้าใจนะครับว่าจะเก็บรักษาสิ่งใดเอาไว้หรือคงสภาพสิ่งใดเอาไว้ให้นานที่สุด

สำหรับความเปลี่ยนแปลงของเชียงคาน ผมคิดว่ามันอยู่ที่เราครับ ว่าจะมองอย่างไร มองหาอะไร เป็นเรื่องจำเพาะของแต่ละบุคคลนะ แต่สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องไม่ลืมใส่ใจกับสิ่งอื่นรอบด้านด้วย โดยเฉพาะกับคน เพราะทุกสิ่งที่เปลี่ยนไปหรือคงอยู่ คนมักเป็นตัวแปรหลักและเป็นตัวแปรตามอยู่เสมอ

จะอย่างไรก็ ขอสนับสนุนให้พี่น้องและผองเพื่อนได้เดินทางท่องเที่ยว ตราบเท่าที่สังขารของเราจะอำนวยครับ ผมเชื่อเสมอว่าการเดินทาง สามารถเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างในตัวเราได้

เผยแพร่เพื่อยุติ EHIA

เขาเทวดา สุพรรณบุรี

คืนนี้ หน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 3 ตะเพินคี่ภอากาศยังคงเย็นยะเยือกเหมือนเดิมครับ แม้เหล้าจะเข้าปากไปพอสมควรแต่ก็ไม่ได้ทำให้อุ่นขึ้นสักเท่าไร เอ แต่จะว่าไป กับความเชื่อที่ว่าดื่มเหล้าแล้วทำให้ร่างกายอบอุ่นนั้นล่าสุดเค้าก็วิจัยออกมาแล้วนะครับว่าไม่จริง การที่เรารู้สึกว่าร่างกายอุ่นนั้นก็เพราะแอลกอฮอร์ทำให้ระบบประสาททำงานช้าหรือเกิดอาการชาเฉยๆ เราก็เลยรู้สึกว่าไม่หนาว ทั้งที่ความจริงแล้วร่างกายก็ยังคงได้รับอุณหภูมิที่เป็นอยู่จริงๆ เท่าเดิม ดังนั้นเราควรใส่เสื้อผ้าให้อุ่นๆ เข้าไว้จะเป็นการดีที่สุดครับ

Continue reading

จากตอนที่แล้ว ภhttp://www.world.in.th/?p=1767

เมื่อคืนอากาศหนาวได้ใจดีเหมือนกัน ก็แน่ล่ะครับ นี่มันหน้าหนาวหนิเนาะ หนำซ้ำที่นี่ก็อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลพอสมควร คืนแรกของทริปเขาเทวดา มันช่างได้อารมณ์เสียจริง ยิ่งได้มีโอกาสนั่งล้อมวงทานอาหาร ดื่มเหล้า พูดคุยเฮฮากันกับเพื่อน ๆ ในค่ำคืนที่ดาวกระจายเต็มท้องฟ้ากับอากาศหนาวเย็นปีล่ะครั้งนั้น เป็นความสุขของชีวิตที่หาไม่ค่อยจะได้บ่อยนักกับคนทำงานออฟฟิศในเมือง และเมื่อมีโอกาสก็ควรจะตักตวงความสุขนั้นไว้ ใช่ไหมล่ะครับ

Continue reading

ขอเชิญร่วมงานธรรมยาตราลุ่มน้ำลำปะทาวครั้งที่ ๑๓ ระหว่างวันที่ ๑-๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ภเฉลิมพุทธชยันตี

จากบ้านกุดโง้ง ถึงวัดป่ามหาวัน (ภูหลง) จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชยันตีซึ่งแปลว่าการครบรอบวันเกิดของพระพุทธศาสนาหรือวันครบรอบชัยชนะของพระพุทธเจ้า เราจะตามรอยอารยธรรมพุทธศาสนาในลุ่มน้ำลำปะทาวจากอดีตถึงปัจจุบัน ผ่านโบราณสถานสมัยทวารวดีและขอม

เหมือนปีที่แล้ว ผู้เข้าร่วมจะได้ทดสอบร่างกายและจิตใจด้วยการแบกสัมภาระของตัวเอง (รายการสัมภาระที่แนะนำ) ยกเว้นถุงนอนและเต๊นท์ที่จะนำขึ้นรถกองกลาง (ไม่มีเต็นท์ให้ยืมในปีนี้) ผู้ที่อายุมากกว่า ๕๐ ปีมีสิทธิพิเศษฝากของไปกับรถกองกลางได้ นอกจากนี้จะไม่รับประทานอาหารเย็น แต่จะมีน้ำปานะแทน จำกัดจำนวนคนไม่เกิน ๒๐๐ คน

Continue reading