เย็นวันนี้พวกเราต้องเดินทางไป “วัดศรีบุญเรือง” ตำบลชัยพร เป็นที่ซึ่งหลวงลุงที่ป็นญาติผู้ใหญ่ของผมเป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดนี้อยู่ห่างจากตัวจังหวัดราวยี่สิบกว่ากิโลเห็นจะได้ เป็นวัดป่าที่ติดริมแม่น้ำโขงครับ หากท่านใดจะเดินทางทำบุญก็ดูจากแผนที่ด้านล่าง แต่เนื่องจากยังไม่มีใครเข้าไปปักหมุดใน Google Maps การค้นหาสถานที่จึงจะยังไม่เจอ ดังนั้นหากจะไปให้ถึงจุดหมายกันจริง ๆ ก็ให้ไปตั้งหลักที่ตำบลชัยพรก่อน จากนั้นก็ค่อยถามคนที่นั่นดูก็ได้ครับ เพราะจากตัวตำบลถึงวัดห่างกันไม่กี่กิโลครับ


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วัดศรีบุญเรือง แห่งนี้เดิมทีมีชื่อว่า “วัดเมืองเหือง” ตามประวัติที่ได้มีการบันทึกไว้ วัดนี้เป็นวัดโบราณถูกสร้างขึ้นเมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจ ต่อมาราวปี พ.ศ. 2100 วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา [เขตวิสุงคามสีมา] จากที่ได้เดินสำรวจดูรอบวัด พบว่ายังพอมีให้เห็นซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างเดิมอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่นั้นน่าจะถูกกลบหรือฝังทับอยู่ใต้ดิน

หลวงลุงผู้เป็นเจ้าอาวาสเล่าว่า แต่เดิมวัดนี้ถูกทิ้งล้างไปนานไม่ค่อยมีพระมาจำวัด และหากจะทิ้งร้างต่อไปให้เนิ่นนาน วัดนี้ก็จะเข้าไปอยู่ภายใต้การดูแลของกรมศิลป์ (ซึ่งจะไม่มีคนไปเฝ้าประจำ) เกรงว่าจะมีการขุดคุ้ยหาของเก่าโดยเหล่าหัวขโมย และเชื่อเถอะว่ามันก็จะทำให้ยิ่งแย่ลงไปอีก

ในช่วงเย็นที่ยังพอมีแสงอยู่บ้าง ผมได้เดินสำรวจดูรอบ ๆ บริเวณวัด จากภาพจะเห็นว่าในบริเวณวัดนั้นค่อนข้างร่มรื่นมีต้นอยู่เยอะ อันนี้เป็นต้นไม้ที่มีอยู่เดิม หลวงลุงบอกว่าจะไม่ให้มีการตัดหรือโค่นเพื่อก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ครับ ฟังแล้วก็ชื่นใจ

รอบด้านนอกรั้ววัดเป็นสวนของชาวบ้าน เวลาที่ชาวบ้านมาดูแลสวนก็มักจะแวะเข้ามามมัสการหลวงลุงอยู่บ่อย ๆ ครับ พืชที่ชาวบ้านปลูกก็จะมีทั้งพืชผักสวนครัว หรือบางทีก็เป็นพืชไร่ซึ่งก็จะปลูกไว้กินเองบ้างเหลือก็ขาย พืชที่ปลูกก็ดูงามดีเนื่องจากเป็นดินตะกอนแม่น้ำ เพราะพื้นที่ติดริมแม่น้ำโขงนั่นเองครับ

ด้านหน้ากุฏิหลวงลุงมีต้นไม้ดอกไม้ประดับแปลก ๆ อยู่หลายต้น ผมเองก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นต้นอะไรกันบ้าง ต้นไม้เหล่านี้ญาติโยมเป็นผู้นำมาถวาย หลวงลุงก็จะดูแลต่อ ซึ่งหลวงลุงค่อนข้างที่จะเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีครับ

ท้องฟ้ามืดลงทุกที ๆ แต่ก็ยังพอที่จะมองเห็นฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอยู่ ฝั่งโน้นดูเงียบมากแม้จะทราบจากหลวงลุงมาว่ามีหมู่บ้านเล็ก ๆอยู่ แต่ก็ไม่เห็นแสงไฟเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นไปได้ว่าหมู่บ้านเล็ก ๆ ของสปป.ลาวแห่งนี้อยู่ไกลปืนเที่ยงเกินกว่าไฟฟ้าจะไปถึง

หาดทรายและแม่น้ำโขงในยามอัสดงนั้นดูนิ่งเงียบเหมือนจะซ่อนบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ หากไม่คิดฟุ้งซ่านไปมาก ที่นี่ดูงามสงบไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำโขงดัง ๆ ยอดนิยม อันนี้ผมรับประกัน

ระหว่างเดินขึ้นจากริมโขง เหลือบไปเห็นต้นผักกวางตุ้งที่ชาวบ้านปลูกทิ้งไว้แล้วไม่ได้เก็บเกี่ยว เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะแตกช่อดอกสีเหลืองสวยสดนัยว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายแล้ว

และคืนนี้พวกเราจะได้น้องหมาตัวนี้แหละเป็นยามเฝ้าวัดให้ มันคงจะงีบเอาแรงไว้ก่อนจะถึงเวลานั้น

บทความโดย

Orange Smallfish

 

Comments

comments

Leave a reply

<a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong> 

required