สำหรับผม วันนี้วันสุดท้ายของทริปนี้ แน่นอนว่าต้องท่องเที่ยวให้คุ้มซะหน่อย
พี่ตุ้มบอกว่าไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มีศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์พืช ถ้าพวกเราสนใจพี่เค้าก็จะพาไปดูครับภ จริงๆแล้วศูนย์แห่งนี้มีชื่อเรียกนะครับ แต่ผมจำไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยครับ
คนที่ไปด้วย หลายคนมานั่งตรงกระบะกัน ทั้งที่เบาะหลังคนขับก็มีที่นั่งเหลือ ผมก็เป็นคนหนึ่งล่ะที่ชอบนั่งกระบะหลัง เพราะรู้สึกชิวๆกินลม กินบรรยากาศ มันดีจริงๆครับภ อ่อ ผู้ชายที่เห็นด้านล่างคือพี่ตุ้มเม้งครับ พี่ใหญ่ของผมเอง
ผู้ชายใส่เสื้อทหารคนหน้าสุดนี้คือเจ้าเต่า พวกเราเรียกเค้าว่า “นักรบอุปกรณ์” เพราะพี่เค้ามักจะมีอุปกรณ์ทุ่นแรงอะไรแปลกๆมานำเสนอเพื่อนบ่อยๆภ หลายครั้งที่เจ้าเต่าพรีเซ็นท์ซะจนเราอยากจะขอซื้อต่อ ไม่ว่าของชิ้นนั้นมันจะเป็นอะไรก็ตามภ เค้ามีพรสวรรค์ในการขายจริงๆครับ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พวกเราก็มาถึงศูนย์เพาะพันธุ์พืช ที่เห็นในรูปนั่นคือบ้านพักของเจ้าหน้าที่ครับ น่าอยู่ดีนะ ท่าทางจะเย็นสบาย
ส่วนอันนี้คือคลองน้ำเล็กๆที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในศูนย์ ผมแอบเห็นปลาดุกอยู่ในนั้นด้วยล่ะ
อันนี้คือ ฝายแม้ว ที่ใช้หินเป็นตัวชะลอน้ำครับ
ตัวอย่างพันธุ์พืชที่เค้าปลูกกันในศูนย์ ผมถ่ายมาหลายรูป รูปนี้สีน่าจะดูสดที่สุดครับ
ขากลับพวกเราผ่านฝายขนาดกลางแห่งหนึ่งจึงลงไปถ่ายรูป
พี่ตุ้มบอกว่า เราน่าจะลงเล่นน้ำ แต่หลายคนไม่เห็นด้วย เพราะเราต้องไปดูช้างป่าอีกรอบ ถ้านุ่งเปียกๆไป เกรงว่าจะไม่สบายตัวครับภ สำคัญที่สุด วันนี้คือวันสุดท้ายของทริปแล้วผมยังไม่เจอช้างป่าเลยซักกะตัว มันน่าเจ็บกระดองใจจริงๆครับ
จากฝายไปจุดดูช้างป่าก็ค่อนข้างหลายกิโล และระหว่างทางพวกเราก็แวะไปที่หน่วยของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้บริเวณแถบนั้น ทราบมาว่านายตุ๊ดตู๋(เพื่อนผมอีกคน)มาเก็บข้อมูลวิจัยที่นั่นพอดี แต่ก็ไม่ได้เจอกันเพราะพี่ท่านเข้าป่่าไปซะก่อน
วิวใกล้ๆหน่วยพิทักษ์ป่าครับ ส่วยดีเหมือนกัน เดินเล่นแถวหน่วยพิทักษ์ป่่าได้สักพัก พวกเราก็มุ่งหน้าต่อไปยังจุดดูช้างป่าครับ
และนี่คือจุดดูช้างป่่าจุดสุดท้ายของผมในทริปนี้ครับ เป็นวิวที่สวยดีถูกใจอีกจุด เนื่องจากเราจุดที่เราแอบดุช้างเป็นพื้นที่สูง จึงทำให้เราสามารถมองเห็นพืื้นที่ด้านล่างได้เกือบทั้งหมด มีแววว่าจะได้เห็นช้างป่าก่อนกลับกรุงเทพฯแน่นอน 🙂 เย้ เย้
ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอดูกันอย่างใจจดใจจ่อ รอ รอ แล้วก็รอกว่าหนึ่งชั่วโมงก็ไม่มีช้างป่ามาให้เห็น ที่สุดก็ต้องกลับด้วยความผิดหวังเสียแล้วสิเรา หมดเวลาแล้วสำหรับทริปนี้ ทุกคนก็ขึ้นรถกระบะกลับไปยังที่ทำการอุทยานฯ ครับ
และแล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นครับ ผมและเพื่อนๆมองเห็นช้างป่าเดินตัดผ่านหน้ารถบนถนนในระยะยี่สิบเมตร เป็นช้างป่าเพศเมียและมีลูกของมันอีกหนึ่งตัวครับ เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน แต่ถึงถ่ายทันผมก็คงไม่กล้าถ่ายเพราะกล้องมือถือผมมันเปิดแสงแฟลชอัตโนมัติ เดี๋ยวยิ่งแฟลชไปช้างเกิดตกใจวิ่งเข้าหาขึ้นมาล่ะก็แย่แน่
ทริปนี้สี่วัน สำหรับผมถือว่าประสบความสำเร็จครับ ได้ทั้งความรู้ การผจญภัย พบป่ะเพื่อนๆภ และที่สำคัญคือพบช้างป่าครับ นับได้ว่าทริปนี้เป็นทริปแห่งการพักผ่อนที่ดีเยี่ยมอีกทริปหนึ่งของผมและเพื่อนๆครับ
ไว้ทริปหน้าจะมาเล่าการเดินทางและการผจญภัยใหม่ๆให้เพื่อนๆฟังนะครับ
สวัสดีครับ
โดย
นายนกกระรางหัวหงอก