ในเช้าวันแรกของปี ผม แม่และน้องสาว มีนัดกันออกไปใส่บาตรทำบุญปีใหม่ ซึ่งเป็นพิธีใส่บาตรทำบุญปีใหม่ร่วมกันของชาวบึงกาฬน่ะครับ ปกติแล้วที่นี่เค้าจะจัดกันทุกวันที่ 1 มกราคมของทุกปี สถานที่คือลานด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ(เดิม) ติดริมแม่น้ำโขงพอดี ระยะทางจากบ้านถึงทีใส่บาตรก็ประมาณกิโลนิด ๆ เดินไปก็ไม่ไกลมากนัก และอากาศเช้านี้ก็ยังหนาวอยู่เหมือนเดิม การเดินจึงเป็นการออกกำลังและอบอุ่นร่างกายไปในตัวครับ
บนเส้นทางที่จะไปยังสถานที่ตักบาตรทำบุญได้ผ่านสถานที่สำคัญ ๆ ของจังหวัดหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นศาลาว่าการจังหวัด โรงพยาบาลจังหวัด ศาลเจ้าแม่สองนางซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดบึงกาฬและยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนที่นี่ พอพูดถึงศาลเจ้าแม่สองนางผมก็นึกย้อนกลับไปว่า แต่เดิมนั้นตัวศาลยังเป็นไม้ต่อมาได้มีการปรับปรุงใหม่ให้เป็นแบบก่ออิฐถือปูนที่ดูมั่นคงแข็งแรงกว่า ตอนย้ายศาลจากหลังเก่าไปหลังใหม่มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ไว้วันหน้าจะมาเล่าให้ฟังถึงประวัติเจ้าแม่สองนางนะครับ
จากศาลเจ้าแม่สองนางมาร้อยกว่าเมตรก็จะถึงตลาดสดประจำจังหวัด จะว่าไปผมไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศตลาดที่นี่มานานแล้ว ตอนเด็ก ๆ ต้องมาตลาดเกือบทุกเช้า เพราะต้องมาซื้ออาหารไปรับประทานก่อนไปโรงเรียน ที่นี่มีทั้งพืชผัก เนื้อ ปลา อาหารสำเร็จรูป บางครั้งก็ได้เห็นของป่าแปลก ๆ หลายอย่างที่ไม่นึกว่าจะมีใครเอามาขาย จะว่าไปพ่อค้าแม่ค้าที่นี่เริ่มมีการซื้อขายกันตั้งแต่ตีสามแล้วล่ะ ส่วนชาวบ้านธรรมดาอย่างผม เช้าสุดก็คงสักหกโมงเช้าซึ่งก็แน่นอนว่าราคาจะอัพขึ้นมาอีกนิดหน่อย
ผมเชื่อว่าสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ตลาดคงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ที่มีไว้สำหรับซื้อของกินของใช้แต่เพียงอย่างเดียว ดังจะเห็นได้จากบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเวลาไปเที่ยวยังต่างจังหวัดเราก็มักจะได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินเที่ยวตลาดเช้ากันอยู่บ่อย ๆ แรก ๆ ก็ฟังดูแปลก ๆ สำหรับคนต่างจังหวัดอย่างผมแล้วไม่เคยคิดล่ะว่าตลาดจะกลายมาเป็นไฮไลต์ในตารางการเดินทางท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวชอบแวะมาเดินเที่ยวกันบ่อย ๆ : )
ระหว่างที่กำลังรอแม่และน้องสาวแวะตลาดซื้ออาหารคาวหวานสำหรับใส่บาตร ผมก็ถือโอกาสหาอะไรรองท้องไปก่อน ข้าวจี่ชุบไข่ ทานคู่กับกาแฟโบราณสักชุด อร่อยเหาะตีลังกากันเลยเชียว นักท่องเที่ยวท่านใดที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวบึงกาฬอยากจะลอง ก็แวะไปจัดกันได้ที่หน้าตลาดสดบึงกาฬตอนเช้า ๆ ครับ
จากตลาดพวกเราเดินต่อมาอีกสักสองร้อยเมตรกว่าก็ถึงที่ว่าการอำเภอ ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงพอดี อยากบอกว่าบรรยากาศยามเช้าที่บึงกาฬนี่มันช่างสดชื่นสุดยอดครับ โดยเฉพาะริมแม่น้ำโขง ลมเย็นเอื่อย ๆ ในช่วงฤดูหนาวพัดพาเอามวลออกซิเจนเข้าไปล้างปอดได้ดีแท้
ตอนนี้ที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอ ซึ่งเป็นสถานที่ใส่บาตรทำบุญปีใหม่ พี่น้องชาวบึงกาฬกำลังทยอยเดินทางมารวมกันมาขึ้นเรื่อย แต่พิธีตักบาตรยังไม่เริ่ม เห็นผู้ที่มาร่วมงานคุยกันว่าต้องรอ “ผู้หลักผู้ใหญ่” เสียก่อนงานจึงจะได้เริ่ม กอรปกับพระท่านยังเดินทางมาไม่ถึง ระหว่างรอผมสังเกตว่าผู้ที่มาร่วมงานไม่ค่อยมีคนหนุ่มสาวเสียเท่าไร มีแต่เด็กกับคนสูงวัย
พวกเรารออยู่สักพักใหญ่ ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้าที่เครื่องของแม่ ทราบว่าเป็นน้าสาว น้าบอกกับแม่ว่าน่าจะย้ายสถานที่ตักบาตรไปอีกที่ คือที่วัดภูกระแต(วัดสามัคคีอุปถัมภ์) ที่นั่นมีพิธีการตักบาตรปีใหม่ตรงบริเวณหน้าวัดทุก ๆ ปี และจัดแค่ปีละครั้ง สำคัญก็คือ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม เจ้าอาวาส ท่านได้ลงมารับบิณฑบาตรเองเสียด้วย พวกเราเห็นว่าน่าสนใจมาก อีกอย่างพิธีตักบาตรหน้าที่ว่าการอำเภอยังไม่ได้เริ่มและคาดว่าน่าจะรออีกนาน แม่จึงตัดสินใจนัดแนะน้าสาวให้โฉบรถมารับไปวัดภูกระพร้อม ๆ กัน
พวกเราไปถึงวัดภูกระแตในจังหวะที่พิธีตักบาตรกำลังดำเนินอยู่พอดี (เกือบไปไม่ทัน) ลงจากรถปุ๊บก็รีบวิ่งไปใส่บาตรกับเร็วพลัน และแล้วทุกคนก็ได้ใส่บาตรหลวงปู่กันถ้วนหน้า วเช้านี้ช่างอิ่มเอมใจเหลือเกินครับ
บทความโดย