ตอนแรกผมคาดหวังไว้ว่าทริปนี้จะได้สัมผัสกับความหนาวเย็น แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง เพราะลมหนาวแห่งฤดูกาลเจ้าได้พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไปอย่างไม่ไยดีภ ทิ้งไว้แต่เพียงความอบอ้าวและฝนฟ้าบางๆ พอได้ดับคลายร้อนเท่านั้นเอง
นครนายก จังหวัดที่ผมเคยตั้งใจไว้หลายครั้งแล้วล่ะครับว่าจะมาเยี่ยมเยือนพักผ่อน ก่อนหน้านั้นผมเคยเดินทางผ่านที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่คิดที่จะแวะเที่ยวเป็นจริงเป็นจังเลยสักกะครั้ง ทริปนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสอันดีครับ
ผมวาดฝันไว้ว่าที่ๆเราจะไปพักกางเต้นท์จะเป็นสถานที่เงียบๆใต้เขื่อนขุนด่านปราการชล มีลำธารเย็นๆไหลผ่าน นั่งชิวด์ๆดูดาวกลางคืน และตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ในยามเช้า นึกแล้วมีความสุขจังวุ้ย
น้องโลมารับอาสาเป็นผู้ประสานงานจองที่พัก ซึ่งเราก็ตั้งใจไว้ว่าจะพักที่ ทอฝันรีสอร์ท แต่จนแล้วจนรอดเราก็ไม่ได้พักที่นี่ครับ เพราะที่กางเต้นท์โดนเหมาไปทำสนามแข่งรถ 4×4 หมดก่อนหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางทอฝันก็ไม่ได้ตัดเยื้อใยซะทีเดียว เค้าโทรมาอีกครั้งแล้วบอกว่ามีที่กางเต้นท์อีกที่ใกล้ๆ ที่ทำการ อบต. ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับทอฝันนั่นเอง ข่าวดีนี้ทำให้คณะทริปใจชื้นขึ้นมาไม่น้อยเลยครับ
เราเดินทางจากกรุงเทพฯถึงนครนายกใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษๆ แวะซื้อของทำกินที่ตลาดสดแล้วรีบบึ่งไปทอฝันทันที
แต่แล้วสิ่งที่เราไปพบกลับไม่ได้เป็นดังที่ฝัน เพราะที่ๆเราจะไปกางเต้นท์เป็นพื้นหญ้าเนื้อที่เล็กๆ อยู่ท่ามกลางฝูงมนุษย์ฉิ่งฉาบทัวร์ และตลาดโอท็อบย่อมๆภ มองไปทางไหนก็เห็นคนส่งเสียงร้องเพลงดังสนั่นยังกะงานแข่งเรือบ้านผมยังไงยังงั้นเลยครับพี่น้อง
ทุกคนมองหน้ากันพร้อมกับนึกในใจว่า ไม่ไหวล๊ะต้องหาที่พักใหม่โดยด่วน พวกเราขับรถตระเวนหาที่พักไปหลายที่ครับ แต่ละที่คนเต็มบ้าง คนเยอะบ้าง บางที่ก็ไม่ให้กางเต้นท์ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจะหมดหวัง ฮีโร่ทริปนี้ก็บังเกิดขึ้น! เจ้าบิ่นนึกขึ้นได้ว่าเคยได้รับ Forward Mail เรื่อง สวนตาเปลี่ยน สถานที่ซึ่งสวยงามติดริมน้ำและเคยมีคณะถ่ายทำระครเข้าไปใช้พื้นที่อยู่บ่อยๆ สถานที่แห่งนี้เหมือนสถานที่ลี้ลับจริงๆครับ เพราะไม่มีเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อ ไม่มีแผนที่นำทาง ไม่มีอะไรเลยนอกจากชื่อสถานที่ที่เค้าเรียกกันว่า สวนตาเปลี่ยน ที่สุดพวกเราก็ได้ข้อมูลสำคัญมาจนได้ นั่นก็คือสวนตาเปลี่ยนอยู่ใกล้ โฮมแอนด์ฮิลล์ รีสอร์ท ราว 10 นาที แน่นอนก่อนอื่นพวกเราต้องหา โฮมแอนด์ฮิลล์ให้เจอครับ จากนั้นค่อยว่ากันต่อทีหลังว่าจะไปต่ออย่างไร
และแล้วก็ตามหาโฮมแอนด์ฮิลล์เจอจนได้ เจ้าโลมาก็ลงรถไปถามชาวบ้านแถบนั้น ทราบความว่าสวนตาเปลี่ยนอยู่ไม่ห่างจากโฮมแอนด์ฮิลล์ฯซะเท่าไร พี่ชาวบ้านเค้ายังทิ้งท้ายเสียวๆไว้ด้วยนะครับว่า “ลองเข้าไปดูนะ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าลุงแกจะเปิดให้พักหรือเปล่า” เอ๋า ใยกล่าวเยี่ยนนั้นล่ะเจ๊ ทำเอากำลังใจหดหายเลยนะเนี่ย
ผมและคณะจำเป็นต้องถามทางกับชาวบ้านไปเรื่อยๆครับ ที่สุดก็ทราบแล้วล่ะว่า สวนตาเปลี่ยน อยู่ไหน พวกเราขับรถเข้าซอยวิ่งลัดเลาะเข้ามาเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงปากทางเข้าสวน ตรงนี้สำคัญครับ ถ้าเราไม่สังเกตให้ดีๆ รับรองได้เลยว่าขับเลยไปแน่ เพราะป้ายทางเข้าของที่นี่กว้างได้สักฟุตกว่าๆเห็นจะได้ครับ
ทางเข้าไปยังสวนนั้นค่อนข้างแคบ เป็นทางดินมีหญ้าขึ้นพอประมาณ เหมือนไม่ค่อยมีรถวิ่งเข้าไป ดูแล้วไม่น่าเหมาะกับรถเก๋งของเรา แต่สารถีใจเด็ดก็ยังฝืนขับเข้าไปครับ ทั้งที่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำนะครับว่าเจ้าของสถานที่เค้าจะให้เราพักรึป่าว ไม่นานก็เจอบ้านริมธารน้ำครับ มีลุงอายุสักห้าสิบมาต้อนรับ ไม่ใช่ตาเปลี่ยนหรอกครับ ลุงคนนี้เป็นลูกของตาเปลี่ยนต่างหากล่ะ
ที่สุดคุณลุงก็ให้เรากางเต้นท์ได้ไม่ว่ากระไร โอ้ ดีใจมากมายครับ ลุงแกคิดเต้นท์ละ 250 บาทต่อวันครับ ซึ่งเป็นราคาที่ยอมรับได้
ที่พักของเราติดลำธารพอดี เสียงน้ำในลำธารไหลผ่าน ฟังแล้วชื่นใจจริงๆ คืนนี้คงหนีไม่พ้นที่จะต้องลงไปนอนแช่น้ำแหงนดูดาวเป็นแน่แท้
ตอนนี้เย็นมากแล้ว พวกเราเดินสำรวจหาที่เหมาะๆ สำหรับปักหลักกันอย่างรีบเร่ง และไม่รอช้า เหล่าพลพรรครักท่องเที่ยว ก็กุลีกุจอกางเต้นท์กันอย่างว่อง ทำยังกะกลัวว่าลุงแกจะเปลี่ยนใจไม่ให้พัก ฮ่าๆ
ทุกคนรีบช่วยการก่อไฟและหุงหาอาหารกันโดยมีโลมาเป็นตัวหลักอีกเช่นเคย รสชาดของอาหารมื้อค่ำนี้ก็ยังคงเด็ดเหมือนเดิมฝีมือไม่เคยตกครับ กินข้าวเสร็จพวกเราก็ลงไปแช่น้ำในลำธารอย่างที่ตั้งใจ น้ำเย็นเฉียบเลยล่ะ แต่ก็โอเคเลยครับ
อย่างที่ผมหวังไว้ พวกเราได้นอนแช่น้ำในลำธารขนาดความลึกเท่าหัวเข่า แล้วก็ดูดาวบนท้องฟ้า รอบบริเวณ์มีเพียงบ้านลุงเปลี่ยนกับคณะเราเท่านั้นครับ มันช่างสุดยอดเหลือคณา
อาบน้ำเสร็จก็ถึงเวลาถ่ายภาพกลางคืนครับ ผมกับบิ่นก็เริ่มกดชัดเตอร์กันอย่างสนุกสนาน รูปสวยไม่สวยไม่สน ขอแค่ได้ถ่ายภาพ เท่านี้ก็โอเคแล้วล่ะครับ
บนท้องฟ้าของค่ำคืนพิเศษนี้ มีทั้งดาราและจันทรา สวยงาม และภาพถ่ายไม่มีวันบรรยายได้หมด ผม ปุย และนายบิ่นนั่งสนทนากันถึงตีสาม ก็เข้านอนครับ พรุ่งนี้เช้าหวังว่าจะได้ภาพสวยๆ มาให้เพื่อนๆที่ออฟฟิศดูครับ
zzzzzzzzzzzzz
….
เช้านี้ท้องฟ้าช่างสดใสเหลือเกิน ลิบๆนั่นคือดวงจันทร์ที่ยังไม่ตกดิน ผมกับบิ่นเริ่มเก็บภาพทั่วบริเวณที่พัก
ลำธารใสๆ ชวนให้ผมลงไปแช่ภภ แต่ยังหรอก ขอผมเก็บภาพงามๆของที่นี่ก่อนนะ
หินหลายขนาดเรียงรายกันอย่างเป็นระบบระเบียบเหมือนธรรมชาติตั้งใจ
น้ำในลำธารไหลค่อยไหลแรงสลับกัน น่ากระโดดลงไปตะกุยจริงๆครับ
สายน้ำนี้คงจะไหลเข้าไปในเมือง ผ่านรีสอร์ทอื่นๆอีกหลายๆแห่ง โชคดีจริงๆ ที่เราอยู่เกือบต้นๆน้ำ
น้ำใสขนาดไหน คงบรรยายได้จากภาพนี้
ท้องฟ้าก็ใสไม่แพ้น้ำในลำธารเช่นกันครับ
โลมากับน้องกิ๊ก เริ่มหุงหาอาหารเช้ากันแล้ว เอ ทำอะไรกินกันหว่า ชักหิวแล้วสิเรา
ดาวจันทร์เช้านี้ดูดวงใหญ่และชัดเป็นพิเศษ คิดว่าคงอีกนานเลยล่ะกว่าจะลับขอบฟ้า
นายปุกปุยเพื่อนผม อดใจต่อความใสของลำธารไม่ไหว กระโดดลงไปนั่งแช่ก่อนใครๆ
บวกกับหมาเจ้าถิ่นอีกหนึ่งตัวเป็นเพื่อนครับ
พวกเรากำลังเดินไปเล่นน้ำอีกจุด เมื่อเช้าบิ่นไปถ่ายรูปพร้อมสำรวจมาแล้วก่อนหน้า ยืนยันว่าบริเวณที่เรากำลังจะไปนั้นน้ำน่าเล่นกว่าที่ๆ เรากางเต้นท์มาก
จริงอย่างที่บิ่นเค้าบอก ตรงนี้น่าเล่นกว่าจริงๆด้วย น้ำไหลแรงกว่าและลึกกว่า แต่ไม่ได้ลึกมากนะครับ กำลังดีเลยล่ะ
คนเล่นน้ำก็มาถ่ายรูป คนถ่ายรูปก็โดดลงไปเล่นน้ำ สลับกันไปครับ
ใครจะเชื่อล่ะว่า ความใสของสายน้ำ ได้ชะล้างความแก่ออกจากตัวพวกเราไปด้วย
รูปด้านล่างเนี่ย เหมือนสิงโตทะเลกับแมวน้ำยังไงยังงั้น
เล่นน้ำจนเกือบเที่ยง พวกเราก็เก็บเต้นท์และข้าวของ ไหว้ลาคุณลุง ก่อนมุ่งตรงสู่ เขื่อนขุนด่านปราการชล
และนี่คือ เขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก
น้ำเหนือเขื่อนมีเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงเกษตรกรในจังหวัดนครนายกตลอดทั้งปี น่าอิจฉาคนที่นี่จริงๆครับ
วิวเหนือเขื่อน ยังคงสวยงามอยู่เช่นเคย เชื่อเถอะครับว่า สักวันผมต้องกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่ๆ
นำเสนอโดย
นายนกกระรางหัวหงอก
รูปสวยสุดยอด อยากถ่ายให้ได้แบบนี้บ้าง