ผมเชื่อว่าเกือบทุกคนชอบท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ แต่รูปแบบการท่องเที่ยวของแต่ละคนแตกต่างกัน จึงเป็นการยากที่จะทราบว่าแต่ละคนชอบท่องเที่ยวแบบไหน แต่มันก็ไม่สำคัญหรอกนะครับ เพราะผมมีทฤษฏีส่วนตัว ทฤษฏีที่ว่าด้วยความมากหรือความน้อยหรือน้อยที่สุด คำว่าไม่แทบไม่มีหรือน้อยมากในทฤษฏีการท่องเที่ยวของผม บางคนชอบเที่ยวทะเล บางคนชอบเที่ยวภูเขา บางคนชอบเที่ยวป่า บางคนชอบเที่ยวหน้าหนาว บางคนชอบเที่ยวหน้าร้อน และมีเยอะที่ชอบเที่ยวหน้าฝน สรุปว่าทุกคนชอบท่องเที่ยว แต่จะมากหรือน้อยนั้นผมไม่ทราบ และไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ที่สุดแล้วตัวแปรสำคัญของการเดินทางท่องเที่ยวก็คือ “เพื่อนเที่ยว” ถ้ามีเพื่อนผมว่าเราที่ไหนก็ได้ ถึงไหนถึงกันว่าไหมครับ
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย สระบุรี ระยะทางจากกรุงเทพฯ ร้อยกว่ากิโล ผมว่าไม่ไกลนะครับ เมื่อเที่ยบกับระยะเวลาทีเรามีอยู่อย่างจำกัดแค่ 2 วัน 1 คืน(วันเสาร์และอาทิตย์) ผมเริ่มชวนน้องๆเพื่อนๆในออฟฟิศ รวบรวมคนอยากเที่ยวหน้าหนาวได้สิบกว่าคน มีอยู่ไม่กี่คนหรอกครับที่เคยไปทริปกับผม น้าโต๊ด โลมา น้องนุช(แฟนน้าโต๊ด) และน้องกิ๊ก เค้าเคยเที่ยวทริปกับผม พวกนี้ทราบดีว่าผมจะจัดทริปลักษณะไหน และไม่ค่อยจะปฏิเสธหากผมชวน(หรือเค้าชวน)ภ ส่วนอีกสิบกว่าชีวิต นั่นคือครั้งแรกของผมกับพวกเค้าในทริปนี้
ผมมีเวลาเตรียมแผนการสำหรับทริปแค่ 1 วันเพราะเดิมทีตั้งใจจะไปเขาใหญ่ ทว่าที่นั่นคนเต็มไม่มีที่กางเต้นท์ ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกอย่างเต็มใจ นอกจากสี่คนที่เป็นสมาชิกทริปเก่าผมแล้ว ผมคงต้องขอเอ่ยชื่อสมาชิกทริปทั้งหมดซึ่งก็ได้แก่ เจ้าบิ่น(หมอนี่ไปเที่ยวด้วยกันก็บ่อยนะแต่เค้าไม่เคยไปทริปธรรมชาติกับผมเลยสักครั้ง) นายไมค์ เมพตั๊ก เฮียร์เอส นายกั๊ม นายชา น้องเมย์ น้องเตย ไอ่ตาล น้องเจ น้องตุ้มและน้องสาวสุดหล่อชื่อแทน
รถยนต์สี่คันออกจากต้นทาง เวลาแปดนาฬิกา สารถีรถขับดีกว่าที่ผมคาดหวังไว้(ผมคิดเผื่อไว้ว่าถ้าไม่ขับเร็วเกินไปก็คงขับช้าๆ) เราแวะทานข้าวแกงบ้านสวน อยุธยาตามแผนที่วางไว้ ที่นี่มีข้าวแกงอร่อยให้เลือกทานเยอะมาก แม้จะคนเยอะไปหน่อยแต่ก็โอเค
ก่อนถึงเจ็ตคตขบวนรถของเราได้แยกออกเป็นสองเส้นอย่างไม่ได้นัดหมาย สองคันหลงออกจากเส้นทางที่ผมกำหนดไว้ ส่วนรถที่ผมนั่งและรถนายเอศก็ยังคงวิ่งไปตามเส้นทางเดิม ที่ตลกก็คือรถสองคันที่หลงออกจากเส้นทาง ไปเดินทางจุดหมายก่อนซะงั้นภ ส่วนผมนะเหรอ ผมพาพวกเค้าเดินทางอ้อมซึ่งต้องบุกฝ่าปากดง ผจญกับ สะพานขาด ถนนดินรุกรัง โคตรฝุ่นผงตลบอบอวล และหลุมบ่อ คิดอยู่ตลอดว่าที่นี่อาจเป็นสภาพพื้นที่หลังสงครามของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา แต่แล้วเราก็มาถึงจนได้ เฮ้อ. ดีใจและโล่งใจจัง
พรุ่งนี้ผมจะมาเล่าต่อนะครับคืนนี้ดึกแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับ
ยังไงเนี่ยทำไมคุณนกกระรางหัวหงอกไม่ชวนผมไปด้วยหล่ะครับไปเที่ยวป่าดงพงไพรเนี่ย พอไปไหว้พระตามวัดเนี่ยชวนจังเลยน่ะครับ หรือว่าจัด trip ตามวัยวุฒิ หละครับเจ้านายยยยยย
โทษทีครับคุณนกขมิ้นน้อยธรรมดา ลืมไปแล้วรึป่าวครับว่าตอนนั้นคุณจะกลับขอนแก่น แถมข้อมูลท่องเที่ยวเจ็ดคตเนี่ย คุณเป็นคนให้ผมเองไม่ใช่เหรอครับพี่นกขมิ้น
อ้าวเหรอคุณนกกระรางหัวหงอก ตายหล่ะทำไมลืมหว่า…..ขออภัยครับคุณพี่ เขียนไวๆก็แล้วกันจะคอยอ่าน