หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงกันเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทางสู่ น้ำตกเจ็ดคต ตามที่ได้หารือกันครับ
การเดินทางจากศูนย์ฯถึงทางน้ำตกนั้นสะดวกสบาย สามารถขับรถไปถึงได้ แต่จากปากทางเข้าก่อนถึงน้ำตกเราต้องเดินทางเท้ากว่า 2 กิโล(เห็นจะได้นะ) ซึ่งก็ไม่ไกล้และไม่ไกลถ้าใช้ตัวผมเป็นบรรทัดฐาน และตรงนี้แหละไฮไลท์แรกของทริปนี้ มันคือเสน่ห์ของการเดินป่า คือหลายคนอาจจะไม่รู้ตัวว่า เวลาเราเดินในที่ๆไม่คุ้นเคยสมาธิของเราจะจดจ่ออยู่กันสิ่งรอบข้าง ทั้งเส้นทาง ต้นไม้ ป่า ภูเขา เสียงแมลง และเสียงสัตว์แปลกๆที่ไม่คุ้นเคย น้อยมากที่จะมีคนใจลอยคิดถึงเรื่องอื่นระหว่างเดินป่า เพราะความกลัวจะเป็นตัวแปรที่ควบคุมให้เรามีสมาธินั่นเองครับ
ก่อนมาถึงที่นี่เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำตกอาจจะไม่มีภ ฟังแล้วทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราห่อเหี่ยวใจไปเหมือนกัน ก็แน่ล่ะครับทนเดินตั้งสองกิโลเพื่อจะมาเจอกันน้ำตกที่แห้งขอด เป็นใครก็คงเซ็ง แต่ทำไงได้ล่ะครับ เกิดเป็นมนุษย์บางครั้งก็ต้องวัดดวง (บางคนก็เรียกว่าดื้อดึง) และภาวนาว่าน่าจะมีน้ำตกไหลอยู่บ้าง สักนิดก็ยังดี
และก็ไม่ผิดหวังครับ เกินความคาดหวังด้วยซ้ำ เสียงน้ำตกดังมาตั้งแต่ห้าร้อยเมตรก่อนถึงตัวน้ำตก จากที่ทุกคนกำลังเหนื่อยๆ ก็กลับมีพลังขึ้นมาซะอย่างนั้น ถึงตอนนี้พวกเราเร่งฝีเท้ากันเหมือนนักกรีฑาวิ่งเข้าเส้นชัย
มาถึงแล้ว น้ำตกที่สวยมากในสายตาของผม สวยมากในตอนนี้ เวลานี้ ฤดูกาลนี้ ฤดูกาลที่ไม่น่าจะเหลือน้ำตกให้ลงเล่นจนฉ่ำอุรา ตักตวงความสุขกันเลยพวกเรา